การเขียนบทความทั่วไปต่างจากบทความ SEO อย่างไร

ปัจจุบันมีผู้ที่สนใจอยากทำอาชีพนักเขียนออนไลน์จำนวนมาก แต่ยังไม่ทราบความแตกต่างระหว่างแนวทางการเขียนบทความทั่วไปและบทความสำหรับทำ SEO ให้เว็บไซต์ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดมาฝากกัน ดังนี้

การเขียนบทความทั่วไป

เป็นการผลิตบทความที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มคนเป้าหมาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อการสนับสนุนการทำธุรกิจ โดยมากจะหมายถึงบทความทางวิชาการ ผลงานวิจัย งานเขียนเชิงข่าวและสารคดี หรือการรีวิวสรุปข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหรือสื่อหลายรูปแบบมารวมกัน โดยใช้ภาษาแนวทางการหรือกึ่งวิชาการ จึงทำให้นักเขียนที่รับทำงานเขียนบทความแบบทั่วไป ไม่จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเรื่องการทำการตลาดแบบ SEO ที่ต้องมีการใส่คำสำคัญที่เรียกว่า keyword เพียงแต่การมุ่งเน้นที่สาระสำคัญที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้อ่านก็เพียงพอแล้ว

การเขียนบทความ SEO

เป็นการผลิตบทความให้สอดคล้องตามระบบ SEO หรือ search engine optimization ที่ Google กำหนดกติกาของบทความที่มีคุณภาพไว้ โดยลูกค้าของบทความ คือ บริษัทห้างร้านที่ต้องการให้บทความ SEO สนับสนุนด้านธุรกิจได้อย่างดี คือ เพิ่มอันดับการสืบค้นจากการหาด้วย Google ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทำให้มีความเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้นจากลูกค้า (ทำให้แบรนด์ติดตลาดง่าย) และที่สำคัญ ช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

การเลือก keyword หรือคำสำคัญ สำหรับทำบทความ SEO จึงสำคัญมาก ที่ต้องมีการสืบค้นและวิเคราะห์จาก Google search Console ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายจาก Google ในการเลือกคำที่ตรงกับการสืบค้นของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด และนำมาใส่ในส่วนต่าง ๆ ของบทความที่จะลงในรูปแบบออนไลน์ และยังรวมถึงส่วนอื่น ๆ เช่น Title (ส่วนหัวเรื่อง) Meta Description (ส่วนสรุปย่อที่มีความยาวไม่เกิน 150 คำ)

ตัวอย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่กำลังมองหาบริษัทรับทำ SEO หากคุณเป็นบริษัทรับทำ SEO มีการใส่คีย์เวิร์ดว่า SEO ลงไปทั้งในส่วนหัวข้อและส่วนสรุปย่อ เช่น “บริษัทรับทำ SEO ประสบการณ์สูง เพิ่มยอดขายได้จริง ต้องดูอย่างไร” (หัวข้อ) และ “วิธีการพิจารณาบริษัทที่น่าเชื่อถือ เทคนิคการทำ SEO แบบมืออาชีพ เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจคุณ ตามแนวทางการตลาด SEO สมัยใหม่” (Meta Description) จะทำให้ดึงดูดผู้เข้ามาชมข้อมูลในเว็บไซต์มากขึ้นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด

นอกจากนี้ ในตัวบทความ SEO เอง ยังต้องใส่คีย์เวิร์ดกระจายในส่วนต้น กลางและท้ายเรื่องอย่างเหมาะสม และไม่ใส่คำซ้ำมากเกินไปกว่า 2-4 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบ algorithm ของ search engine วิเคราะห์ว่าเป็นบทความคุณภาพต่ำ ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับการสืบค้น SEO ของเว็บไซต์ธุรกิจนั้น ๆ ด้วย

จะเห็นได้ว่า การเขียนบทความทั่วไปแตกต่างจากการเขียนบทความ SEO อย่างมาก ซึ่งธุรกิจในปัจจุบันจะนิยมจ้างงานนักเขียนที่ทำงานเขียนแนว SEO ได้ดี เพื่อส่งเสริมธุรกิจมากขึ้น เราหวังว่าบทความนี้ จะเป็นแนวทางเบื้องต้นที่ทำให้นักเขียนออนไลน์รุ่นใหม่เรียนรู้ เพื่อที่จะทำผลงานเขียนได้มีประสิทธิภาพตรงกับเป้าหมายมากยิ่งขึ้น