ไม่มีอะไรที่น่าคำนึงถึงไปมากกว่าเรื่องของ Footprint อีกแล้วสำหรับการสร้าง Private Blog Network หากเราสร้างโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ ต่อให้ลงทุนเป็นแสนก็อาจจะสูญเปล่าวได้ในชั่วข้ามคืนเดียว คืนนี้นอนหลับฝันดี แต่พรุ่งนี้ตื่นมา Private Blog Network ของเราอาจจะโดน Deindex จนหมดเลยก็ได้ ถ้าเจอสภาวะแบบนี้ต้องน้ำตาซึมกันหลายคนแน่นอน กว่าจะเลือกซื้อโดเมนแต่ละเว็บมาได้ กว่าจะเขียนบทความลง Blog และปรับแต่งลูกเล่นอื่นๆให้ Blog ดูดี อารมณ์คงประมาณเล่นหุ้นเก็งกำไรแล้วขาดทุนจนหมดตัวนั่นแหละ นี่จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามหากคิดจะทำเน็ตเวิร์คไว้ดัน SEO เป็นของตนเอง

Footprint คืออะไร ?

ถ้าแปลตรงตัวในภาษาไทย มันก็คือรอยเท้า ในทาง SEO จะหมายถึงการทิ้งร่องรอยให้ Search Engine สามารถตามข้อมูลเราได้และรู้ว่าแต่ละ Blog ที่มีการลิงค์ไปยัง Money Site มันไม่ใช่ Blog ที่มีคุณภาพ แต่เหมือนจงใจสร้างลิงค์ของตัวเอง ( มันก็ใช่ไง.. ) หาก Search Engine ตามร่องรอยแล้วพบข้อมูลว่าเป็นกลุ่ม Blog ที่เหมือนกับสร้างเพื่อโยงลิงค์ของตนเอง Search Engine ก็จะทำการ Deindex ชุด Blog เหล่านั้นในทันที หากเราทำเน็ตเวิร์คเป็น 100 โดเมน รับรองว่าคงสาปแช่งผู้ให้บริการเว็บค้นหาแน่นอน จุกหนักเป็นเงินหลายแสน บางคนซื้อโดเมนประมูลราคาสูงๆมา โดเมนละหลายหมื่น แต่ดันมาพลาดท่าเรื่องของการทิ้งรอยเท้าให้ตามได้ คงต้องได้ร้องไห้ไปหลายวันแน่นอน

ทำไม Search Engine ต้องแบน PBN ด้วยล่ะ ?

สำหรับคนหน้าใหม่พึ่งหัดทำ SEO อาจจะมีข้อสงสัย ก็ในเมื่อ Blog ที่เราสร้างขึ้นมันก็เปรียบเหมือนเว็บทั่วไปไม่ใช่หรอ.. ทำไมต้องแบนด้วย ทั้งๆที่ตามหลักแล้ว 1 คนก็สามารถมีได้หลายโดเมนอยู่แล้ว ประเด็นมันอยู่ที่ว่า หลักของ Search Engine ไม่ได้สนับสนุนวิธีการทำลิงค์ด้วยตนเอง พื้นฐานดั้งเดิมคือ หากเว็บเรามีความน่าสนใจ ก็จะมีเจ้าของเว็บอื่นนำเว็บเราไปทำลิงค์ให้เองอยู่แล้ว การทำลิงค์ด้วยตนเองจึงเหมือนการพยายามที่จะโกงอันดับ แต่วงการ SEO ก็ได้มีการทำลิงค์เองจนเคยชินแล้ว เพราะเจ้าของเว็บสมัยนี้มักขี้เหนียวการทำลิงค์ออก ต่อให้เขียนบทความดีแค่ไหน จำนวนการทำลิงค์ย้อนกลับที่จะได้รับก็น้อยกว่าแต่ก่อนมาก ส่วนใหญ่ให้เครดิตโดยวิธีทำลิงค์ตาย ( คือการใส่แค่ชื่อโดเมนของเราเป็นข้อความธรรมดา ไม่ได้ทำเป็นลิงค์ ) เราจึงต้องพยายามที่จะสร้างลิงค์ด้วยตนเองเข้าช่วย ไม่งั้นกว่าเว็บจะมีอันดับคงต้องรอนานแสนนานแน่นอน เพราะเรื่อง Backlinks ยังถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยในเรื่องของ SEO

สำหรับผู้ให้บริการ Search Engine ที่มักจะคอยจัดการพวกเน็ตเวิร์คของนักทำ SEO อยู่เสมอ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Google เราจะเห็นข่าวสารวงการ SEO เป็นระยะเกี่ยวกับการลงดาบ Deindex พวก PBN วงใหญ่ แต่ส่วนใหญ่ที่โดนแบนยกวงจะมาการการตรวจสอบโดยบุคคลของทาง Google ไม่ใช่บอท ถ้าเราปกปิด Footprint เป็นอย่างดี บอทก็ยากที่จะจัดการเน็ตเวิร์คของเรา แต่ถ้าเป็นคนมาตรวจสอบ เนียนแค่ไหนก็โดนได้ง่ายๆ ของแบบนี้อยู่ที่ดวงแล้วล่ะ เอาเป็นว่าเราก็ปกปิดร่องรอยเท่าที่เราทำได้ โอกาสที่จะเจอคนของ Google เข้ามาตรวจสอบนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยากถ้าวงเน็ตเวิร์คเราไม่ได้ใหญ่หรือเด่นจนสะดุดตา พวก PBN วงใหญ่ที่ทำเกี่ยวกับแนว SBOBET ก็จะมีป้องกันเรื่องพวกนี้ไว้อยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ปกติเขาจะจ้างนักทำ SEO เซียนๆมาคอยดูแลอยู่ตลอด

ร่องรอยอะไรบ้างที่เราควรปกปิดข้อมูล

พื้นฐานของการทำแต่ละ Blog คือเราจะต้องให้มันมีความหลากหลาย เขียนเรื่องราวที่ต่างกัน ผู้เขียนเคยเห็นเน็ตเวิร์คของนักทำ SEO บางคนที่มีหลายสิบโดเมน แต่ละโดเมนเลือกที่จะโพสบทความเดียวกัน ใช้ธีมหน้าตาเหมือนกัน ทำลิงค์ออกตำแหน่งเดียวกันและไปยังเว็บเดียวกัน แบบนี้ถ้าวงเล็กก็อาจจะไม่โดน แต่ถ้าวงใหญ่ขึ้นมารับรองว่าได้ร้องไห้เสียใจแน่นอน เพราะมันไม่มีความหลากหลายและเป็นธรรมชาติเอาเสียเลย เหมือนนั่งนับวันถอยหลังเพื่อให้เน็ตเวิร์คตัวเองโดน Search Engine จัดการ ดังนั้น การทำให้ถูกวิธี แต่ละ Blog ก็ควรจะมีเรื่องราวเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป ถ้าเน็ตเวิร์คของเรามีหลายโดเมน ก็ควรใข้โครงสร้างเว็บที่ต่างกันด้วย เช่น SMF, WordPress, Joomla ปนกัน หรือถ้าไม่ชำนาญก็อาจใช้แค่ CMS ตัวเดียวกันแต่ใช้ธีมต่างกันไปบ้าง ธีมต่างกันมันก็จะทำให้ Code แต่ละบรรทัดต่างกันพอสมควรด้วย ยิ่งต่างกันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

สิ่งถัดมาที่สำคัญมากคือการทำลิงค์ออกในแต่ละโดเมน PBN ของเรา โดยส่วนมากเรามักจะทำลิงค์ออกแต่ละ PBN เหมือนกัน คือลิงค์ไปยังเว็บไซต์ทำเงินของเรา วิธีนี้ตามจริงก็ยังทำได้อยู่ แต่หากเรามีทุนเยอะพอสมควรก็ควรจะแบ่งสัก 30 เปอร์เซ็นต์ทำลิงค์เข้าเว็บทำเงินเว็บแรก อีก 30 เปอร์เซ็นต์ทำลิงค์เข้าเว็บทำเงินที่สอง แบบนี้เป็นต้น เพราะหากเรามีหลายโดเมนแล้วลิงค์ออกไปยังเว็บเดียวกันหมด ย่อมมีโอกาสที่จะโดนเก็บได้เพราะเป็นการทิ้งรอยเท้าไว้อย่างชัดเจนเลย แต่ว่าถ้าเราทุนน้อยก็คงไม่ต้องเนียนขนาดนั้นก็ได้ การจะทำให้แต่ละ Privat Blog Network ทำลิงค์ออกไม่เหมือนกันทั้งหมดจะต้องใช้ทุนสูงกว่าการทำเน็ตเวิร์คเล็กๆแต่ทำลิงค์ออกไปยังเว็บเดียวกัน หากเราไม่ได้ทำลิงค์ออกในโดเมนไหน ก็หมายความว่าเราจะไม่ได้ Backlinks จากโดเมนนั้น ถ้าทำให้ SEO ได้ผลดีก็คงต้องสร้างเน็ตเวิร์คหลายโดเมนพอสมควรเลยหากเลือกวิธีให้แต่ละโดเมน PBN มีลิงค์ออกไม่ค่อยซ้ำกัน

สุดท้ายที่เป็นเรื่องสำคัญคือชื่อผู้จดโดเมน หากแต่ละโดเมนที่นำมาสร้าง PBN มาจากชื่อเจ้าของคนเดียวกัน มีหรือว่าจะรอด ไม่ช้าก็เร็วทุกโดเมนของเราจะต้องโดน Deindex แน่นอน สำหรับการจะจดให้แต่ละโดเมนที่ชื่อผู้จดทะเบียนต่างกัน อาจต้องสมัครหลายบัญชีสักหน่อย แล้วตอนจดลงทะเบียนโดเมนก็จดชื่อปลอมไปแทนแบบนี้ เหตุเพราะว่า 1 บัญชีจะมีได้แค่ 1 ชื่อผู้ใช้งาน แต่บางผู้ให้บริการจดโดเมนจะมีให้เราสามารถปรับแต่งชื่อเจ้าของโดเมนได้เองด้วย แบบนั้นก็จะง่ายหน่อย ที่เรามักจะเห็นนักทำ SEO ทำกันคือจะใช้วิธีปกปิดชื่อเจ้าของโดเมนแทน โดยเฉพาะพวกวงหนังโป๊ผู้ใหญ่ Search Engine จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าใครเป็นเจ้าของโดเมนบ้าง แม้ว่าจะมีข่าวที่ทาง Google ออกมาบอกว่าโดเมนที่แสดงชื่อผู้จดโดเมนจะส่งผลด้าน SEO ดีกว่า แต่เหล่านักทำ SEO ก็เลือกจะปกปิดไว้แทน มันบริหารได้ง่ายกว่า ส่วนถ้าอยากหา Backlinks จากโดเมนที่แสดงชื่อเจ้าของโดเมนเพื่อมาถัวเฉลี่ยให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ก็อาจจะเข้าไปฝากลิงค์กับเว็บทั่วๆไปแทน ถ้าเว็บทำเงินของเรามีลิงค์มาจากโดเมนที่ไม่แสดงชื่อเจ้าของโดเมนทั้งหมดมันคงจะแปลกอยู่ไม่น้อย อีกอย่าง หากเราอยากให้มันดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ละโดเมนก็ควรจดทะเบียนจากผู้ให้บริการจดโดเมนที่แตกต่างกันไปด้วย หากทำแบบนี้ได้ เรื่องการโดนแบนเน็ตเวิร์คจากกรณีของรอยเท้าชื่อเจ้าของโดเมนก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ถือว่าสำคัญมาก ใครที่ทำคีย์เวิร์ดที่สุ่มเสี่ยงพวก W88, คาสิโนออนไลน์, แทงบอล พวกนี้อย่าได้ลืมปกปิดชื่อเจ้าของโดเมนหรือใส่เป็นชื่อปลอมเชียวล่ะ ไม่งั้นจะโดนตามตัวได้ง่ายมาก

หากเราสามารถทำได้ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้นในเรื่องการปกปิดรอยเท้า ถ้าเราไม่ได้ทำ SEO วิธีพิศดารจนเกินไป โอกาสที่ Private Blog Network ของเราจะโดนจัดการโดยบอทของ Search Engine ถือเป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าเจอคนตรวจสอบก็อาจจะโดนได้ โดยเฉพาะจากกรณีของการทำลิงค์ออกไปยังเว็บเดียวกันทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าโดนคนตรวจก็ถือว่าดวงซวยของจริง