การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอัลกอริทึมของ Google จึงจะสามารถพาเว็บไซต์ให้เติบโตไปติดอันดับต้น ๆ ในการค้นหาได้ จึงเกิดอาชีพ “ผู้เชี่ยวชาญ SEO” ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ดูแลองค์ประกอบต่าง ๆ ของ SEO โดยเฉพาะ เพื่อเป็นที่พึ่งพาและสร้างความสะดวกสบายให้กับธุรกิจที่ต้องการดำเนินการเกี่ยวกับ SEO โดยเฉพาะ ซึ่งหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มีหลากหลายด้านที่น่าสนใจ ดังนี้

  1. คัดเลือกคีย์เวิร์ด SEO

คีย์เวิร์ดที่จะนำมาใช้ในการทำ SEO มีหลากหลายและมีอยู่เป็นจำนวนมาก แม้แต่สินค้าหรือบริษัทประเภทเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ดเดียวกันในการทำ SEO จึงทำให้การเลือกคีย์เวิร์ดสามารถใช้ตัดสินความสำเร็จของการทำ SEO ได้เลยทีเดียว โดยลักษณะคีย์เวิร์ดที่ดีต้องมีปริมาณการค้นหาเยอะ มีทั้งคำที่เฉพาะเจาะจงและคำที่มีความหมายทั่ว ๆ ไป เพื่อให้ครอบคลุมการเสิร์จหาของลูกค้าทุกประเภท

  1. ออกแบบโครงสร้างของเว็บ

การวางแผนโครงสร้างเว็บที่ดีจะทำให้เว็บไซต์ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการท่องเว็บให้กับเหล่าผู้ใช้งาน ทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมของเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงเพจต่าง ๆ ในเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นการจัดการระบบโครงสร้างภายในเว็บไซต์ให้ดีจะทำให้การแก้ไข ตรวจสอบ และพัฒนาส่วนต่าง ๆ ทำได้คล่องแคล่วมากขึ้นด้วย

  1. กำหนดองค์ประกอบของบทความ SEO

การเขียนบทความเพื่อทำ SEO จำเป็นต้องมีองค์ประกอบเพื่อผลักดันคะแนน SEO ให้สูงพอที่จะติดอันดับต้น ๆ ในผลลัพธ์การค้นหา ซึ่งองค์ประกอบพื้นฐานที่ดีคือการวางคีย์เวิร์ดไว้ในที่ที่เหมาะสมทั้งชื่อเรื่อง เนื้อหา และส่วนต่าง ๆ ของเพจ นอกจากนั้นยังต้องสร้างลิงก์ในการเชื่อมโยงองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกเว็บไซต์เข้าด้วยกัน

  1. ปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับมาตรฐาน SEO

หลายเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มีผลประกอบการไม่ได้ดั่งใจ เพราะไม่เคยใช้ SEO เพื่อทำการตลาดทางออนไลน์เลย เมื่อถึงเวลาที่ตัดสินใจจะพัฒนาเว็บไซต์ด้วยการทำ SEO การปรับปรุงเนื้อหาเก่า ๆ ที่เคยถูกอัปโหลดในเว็บไซต์ในอดีตควบคู่ไปกับการเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ จะเป็นอีกทางที่ช่วยพัฒนาระบบให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และยังทำให้ภาพรวมของเว็บไซต์ดูดีขึ้นอีกด้วย

  1. ติดตามผลของการทำ SEO

การทำ SEO จำเป็นต้องทำการติดตามผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องจึงจะทำให้รู้แนวทางการพัฒนาเว็บไซต์ให้ตรงจุด และยังทำให้สามารถวิเคราะห์จุดด้อยของเว็บไซต์และแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ต้องทำการวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ ออกมาเป็นตัวเลขเพื่อใช้ในการวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม

จะเห็นได้ว่าความรับผิดชอบของผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ครอบคลุมหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีองค์ประกอบสอดคล้องกับเงื่อนไขในการเลื่อนอันดับตามแนวทางของ SEO ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO จึงเป็นกลุ่มคนที่สามารถช่วยให้การพัฒนาธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางแผนไว้ ดังนั้นการเลือกพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน